ข่าวไทย
อ.สมเถา เปิดใจการบันทึกประวัติศาสตร์ผ่านเพลงสรรเสริญพระบารมี
04:57
อาจารย์สมเถา สุจริตกุล วาทยกร คีตกร และนักประพันธ์เพลงคลาสติก ซึ่งเป็นผู้ควบคุมการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีในวันนี้ เผยว่า วิธีที่ผมจะสื่อในคราวนี้อยากให้การแสดงครั้งนี้คล้ายๆ ประวัติศาสตร์ของ 70 ปีที่ผ่านมา สรุปเข้ามาใน 2 นาที เพลงเริ่มจากโน้ตเดียวทุกคนร้องโน้ตเดียวกันหมดแล้วค่อยๆ ขยายจนเสียงมันเต็ม เหมือนน้ำที่ไหลไม่หยุดเดี๋ยวจนกลายเป็นลำธารและไหลลงไปในแม่น้ำมหาสมุทรที่ยิ่งใหญ่ นี่คือความรู้สึก 70 ปีที่ผ่านมาของประเทศไทย วันนี้มีนักดนตรี 200 กว่าคน นักร้องประสานเสียงอีก 150 คน หนึ่งในนั้นมีคุณพลอยไพลิน เจนเซ่น การที่ท่านมาร่วมงานนี้ แสดงให้เราเห็นว่าชาวไทยจากทุกส่วนของสังคมสามารถที่ถวายให้ในหลวงร่วมกัน ซึ่งตรงนี้สำคัญมาก ชาวต่างชาติก็มากันเยอะเพราะนักร้องประสานเสียงในวงของเราก็มีชาวต่างชาติที่อยู่เมืองไทยมานานเยอะมาก และทุกคนมีความรู้สึกที่อยากจะถ่ายทอดไปสู่เพื่อนของเขาที่อยู่เมืองเขาด้วยว่าคนไทยรู้สึกอย่างไร ดังนั้น โน้ตจึงต้องใช้เป็นภาษาคาราโอเกะทั้งหมดเพราะมีหลายคนที่อ่านภาษาไทยไม่ออก แต่ก็ร้องด้วยความเต็มใจและทุ่มเทที่สุด
เมื่อถามว่า หนึ่งในนักร้องประสานเสียงมีชาวเวเนซูเอล่าอยู่ด้วยซึ่งเขารู้จักในหลวงของเราและอยากที่จะร้องเพลงนี้ให้ในหลวงด้วยใช่ไหม อ.สมเถา กล่าวว่า “ใช่ครับ มันเป็นสิ่งที่น่าประทับใจที่แม้แต่คนต่างชาติอย่างทุ่มเทขนาดนี้ คนไทยเองก็ไม่น่าเชื่อว่าจะมากันเยอะขนาดนี้ ผมเดินขึ้นเวทีแทบจะไม่ได้ อากาศในวันนี้ร้อนมากแต่ทุกคนใจเย็น ใครอยากจะขอเดินผ่านก็ให้ผ่าน อยากให้บรรยากาศแบบนี้มีตลอดไปในประเทศของเรา ปัญหาอย่างหนึ่งในครั้งนี้คือต้องรู้ว่าจะให้คนร้องเข้าตรงไหน เบาตรงไหน ยืดตรงไหน เราต้องทำท่าให้กว้างมากๆ กว่าปกติแต่มันก็ยังไม่ทั่วถึง ดังนั้นคนที่อยู่ข้างหลังก็ต้องอาศัยมองคนที่อยู่ข้างหน้า เรียกว่าเป็นการถ่ายทอดหลายๆ ต่อ ตอนแรกก็น่ากลัวแต่มันก็กลายเป็นสิ่งที่งดงาม ทุกคนตั้งใจมากๆ วันนี้ผมก็เกือบที่จะเป็นลมเหมือนกัน”
“ส่วนในตอนค่ำผมไม่ได้อยู่ควบคุมการเล่นและการร้อง เพราะเป็นการใช้เพลงบรรเลง สำหรับท่านมุ้ย จะดูแลในฝ่ายภาพ ส่วนผมจะดูแลในฝ่ายของดนตรี หลังจากนี้ก็จะต้องไปเจอกันที่สตูดิโอ” อ.สมเถากล่าว
ตอนแรกที่ท่านมุ้ยติดต่อไปให้มาทำงานชิ้นนี้ตอบรับเลยหรือเปล่า อ.สมเถา ตอบว่า “เป็นความมหัศจรรย์นิดหน่อยที่ทำได้ภายใน 3 วันแต่เป็นความตั้งใจของทุกคนที่จะมาช่วย ทีแรกก็มีขรุขระบ้างเพราะวันไม่ตรงกัน แต่ช่วงที่ท่านมุ้ยติดต่อมาผมอยู่เมืองไทยพอดี วันที่ในหลวงสวรรคต ผมกำลังจะมีการแสดงดนตรีพอดีแต่ก็ต้องยกเลิกไปในวันนั้น”
“ตั้งแต่ผมกลับมาอยู่เมืองไทยงานส่วนใหญ่เป็นงานที่ทำเพื่อราชวงศ์จักกรีหรือเป็นงานที่ทำถวาย ประเทศไทยก้าวหน้าทางด้านดนตรีมาได้ขนาดนี้เป็นเพราะทุกพระองค์เลยนะครับ” อ.สมเถากล่าว
ทีมา : https://www.khaosod.co.th/
0 comments